รีวิวทัวร์เนปาล 8 วัน 7 คืน กรุ๊ปส่วนตัวพี่อุ๊ สำนักผังเมือง กทม.และเพื่อนรวม 7 ท่าน

วันนี้ เริ่มเดินทางออกจากกรุงเทพไปยังนครกาฐมัณฑุ ก่อนเครื่องจะลง ถ้านั่งด้านขวามือของเครื่องบินเขาบอกว่าจะเห็นหิมาลัยสวยเหมือนสวรรค์ และกรุปของเราก็ได้เห็นจริงๆ สวยมากๆ และเมื่อลงมาถึงสนามบินกาฐมัณฑุ สิ่งประทับใจที่สองคือตัวสนามบินขนาดเล็กที่ดูอลังการในงานด้านสถาปัตยกรรม โชว์อิฐที่เรียงกันอย่างสวยงาม เป็นสนามบินชั้นเดียว ตรวจคนเข้าเมืองก็ไม่รีบร้อน  แม้ว่าแถวจะยาวสักปานใหน ก็เรื่อยๆ ไม่รีบ จากนั้นเราก็พบกับไกด์ท้องที่ นำเข้าที่พัก ย่านทาเมล์เป็นโรงแรมสามดาวขนาดเล็กพนักงานน่ารักยิ้มแย้มแจ่มใส เหมือนคนไทยอย่างมาก ไม่ได้หรูหราอะไรมากมา ตกแต่งด้วยงานไม้ เราก็ออกมาเดินเล่นในย่านทาเมล หาซื้อของผ้าพัสมีน่า ตกเย็นก็ดูการแสดงพร้อมทานข้าวเย็น หมดไปแล้ว 1 วัน 

เช้าวันนี้ออกเดินทางโดยรถจิ้ปส่วนตัวไปยังเมืองโพคขรา ระหว่างทางก็แวะช้อปปิ้ง ตลาดเล็กๆพื้นเมือง แวะทานน้ำชา ดูวิวแม่น้ำตรีศูล หิมาลัยแวบออกมาให้เห็นหน้าเห็นตาพอได้ชื่นใจ ไปถึงโพคขราประมาณบ่ายสามโมงเราก็ไม่รีรอ ที่จะลงเรือล่องทะเลสาบเฟวา ที่สวยงาม แวะไหว้เทพเจ้าเกาะกลางทะเลสาปเฟวา อากาศดีมากช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ไม่ร้อน เหมาะกับการล่องทะเลสาปมากๆ

วันนี้ตื่นเช้าไปนั่งเฝ้าพระอาทิตย์ขึ้น ที่ซารังก๊อต จะเป็นจุดชมวิวเทือกเขาอันนาปูรณะ ที่มียอดหางปลาหรือมัจฉาปูเชร โดดเน่น ออกเดินทางจากที่พักตั้งแต่ 04.30 ไปนั่งรอพระอาทิตย์ขึ้นกันอย่างเหน็บหนาว แต่ยังดีมีร้านชาวบ้านเปิดร้านน้ำชา ให้จิบอุ่นคลายหนาว และเลือกซื้อของที่ระลึกกระจุ้กกระจิ้กติดไม้ติดมือไป หลังจากลงมาทานข้าวเช้าที่โรงแรม ก็เริ่มเที่ยวเมืองโพคขรา ไปที่ศูนย์อพยนชาวทิเบต ที่นี่จะมีการทอพรมทิเบตแท้ และครอบครัวชาวทิเบตตั้งแต่ครั้งทิเบตแตกย้ายเข้ามาพักอาศัย เป็นชุมชนที่ใหญ่พอสมควร มีวัด มีพระลามะ เหมือนหมู่บ้านเล็กๆนอกเมืองในประเทศทิเบต ที่นี่เลือกซื้อเลือกหาสินค้าทิเบตได้ในราคาที่ย่อมยาว์ จากนั้นไปน้ำตกเดวี่ หรือน้ำตกลงรูที่หล่นลงมาแล้วหายไปใหนก็ไม่รู้ จริงๆแล้วหายไปที่ถ้ามหาเทพ นั่นเอง จากนั้นก็เดินทางไปยัง Peace Pagoda ที่ชาวญีปุ่นมาสร้างไว้ เดินขึ้นกันเหนื่อยพอสมควร แต่ไปถึงยอดก็หนายเหนื่อยเพราะได้ชมวิวทะเลสาปเฟวา ในมุมสูง ค่ำคืนนี้ำเราก็ไปเดินช้อปปิ้งกันในตลาดโพขรา มีการทอผ้าของน้องๆเยาวชนที่ตาบอดขายด้วย ก็อุดหนุนกันไปพอสมควร

วันนี้เราออกเดินทางจากโพคขรา ลัดเลาะแม่น้ำตรีสูลไปเรื่อย ไปถึงลุมพินี ก็ประมาณ 16.00 น. 7 ชม.กว่าๆไม่นับเวลาทานข้าว ไปถึงลุมพินีก็ไปวัดไทยในลุมพินี ถวายสังฆทานแล้วเข้าที่พัก วันรุ่งขึ้นเราก็เที่ยวภายในลุมพินี ซึ่งเป็น มรดกโลก มีหลักฐานทางโบราณคดีมากมายที่สนับสนุนว่าสถานที่แห่งนี้คือ สถานที่ประสูติของเจ้าชายสิทธัตถะ ผู้ที่ได้ตรัสรู้เป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ของศากยะวงศ์ ภายในลุมพินีจะมีวัดของประเทศต่างๆ มากมาย แต่ละวัดสร้างด้วยความประนีตสวยสดงดงาม โดยเฉพาะวิหารมายา สถานที่ประสูติ เป็นอาคารทรงสี่เหลี่ยมภายในมีหิน Birth Place ด้านข้างของอาคารมีเสาพระเจ้าอโศกมหาราชที่ส่งมาเพื่อเป็นเครื่องยืนยันสถานที่นี้เป็นสถานที่ประสูติ

วันที่ห้าเราใช้เวลานั่งรถกลับกาฐมัณฑุ 1 วันเต็ม วันต่อมาพักผ่อนมีแรงแล้ว เราก็เริ่มเที่ยววัดวาของประเทศเนปาล เมืองปาทันหรือละลิตปูร์เมืองแห่งความสวยงามทั้งสถาปัตยกรรม บ้านเรือน เครื่องทองเหลืองที่วิจิตรอลังการงานสร้างด้วยช่างทองของแต่ละตระกูลที่ตั้งใจทำงานออกมาได้อย่างสวยงาม เมืองภักตะปูร์ เมืองที่ใช้เป็นฉากในเรื่องพระพุทธเจ้าตอนเจอวัฏสงสารก่อนออกผนวช บุดดานีลคันธะ นารายณ์บรรทุมสินธุ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก วัดโพธินารถที่มีเครื่องหมายเอกและดวงแต่แห่งธรรมเหมือนจะบอกให้เราเป็นหนึ่งเดียวกับพุทธะ