รีวิว Outing บ.ทะเลไทย โอเชี่ยนฟู้ดส์ จก. คุณหมิง 

ขอขอบคุณคุณลูกค้าทั้ง 10 ท่านที่มาทริปจอย ปากีสถาน Blossom กันมากๆนะคะ

รีวิวลูกค้าเซี่ยงไฮ้ 27 ท่าน สิรารัญรีสอร์ท 5-9 มิย.68 

ขอขอบคุณครอบครัวคุณนิและสตีฟมากนะคะ ที่เดินทางไปพักผ่อนที่มัลดีฟส์รีสอร์ท Heritance Harah กับเรา และส่งภาพพร้อมวีดีโอน่ารักมาให้เราลงในรีวิวด้วยHeritance Harah เป็นรีสอร์ทห้าดาว อยู่ใน Raa Atoll ห่างจากสนามบินประมาณ 136 กม. จึงต้องเดินทางด้วย Seaplane ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ระหว่างนั่งเครื่องบินก็จะได้ชมวิวสวยจากบนเครื่องบินเมื่อไปถึงก็ได้รับการต้อนรับและบริการอย่างอบอุ่น ในรีสอร์ทจะมีโซนสันทนาการ สนามเทนนิส เหมาะกับครอบครัวนี้ที่เป็นสายสปอร์ตมาก ทั้งพายเรือ เล่นน้ำดำน้ำ ทานอาหาร ดื่มไวน์แชมเปญ ฉลองความสุขของครอบครัวได้อย่างเต็มที่

กรุ๊ปส่วนตัว เดือนกุมภาพันธ์ พี่อุ้และเพื่อนได้เลือกเดินทางกับสิรีนทัวร์เพื่อเดินทางไปเมืองต่างๆในประเทศเนปาล วันแรก กาฐมัณฑุวันที่สอง โพคขราวันที่สาม โพคขราวันที่สี่ โพคขรา-ลุมพินีวันที่ห้า ลุมพินีวันที่หก ลุมพินี-กาฐมัณฑุวันที่เจ็ด กาฐมัณฑวันที่แปด กาฐมัณฑุเดือนกุมภาพันธ์ อากาศจะค่อนข้างหนาว มีดอกไม้บานหลากสี ทั้งซากูระ ทุ่งมัสตาร์ด และอื่นๆ เดือนนี้เป็นเดือนที่น่าเที่ยวมากในประเทศเนปาล ไม่ร้อนและไม่หนาวจนเกินไป รีวิวทริปตามลิงค์ด้านล่างวันแรกhttps://shorturl.asia/djHEkวันที่สองhttps://shorturl.asia/A4GNiวันที่สามhttps://shorturl.asia/UMaHQ

รีวิวทัวร์เนปาล กรุ๊ปส่วนตัว 5 ท่าน กันยายน 2556ทริปนี้เป็นกรุปส่วนตัว 8 วัน โดยการเดินทางเริ่มจากวันแรก กรุงเทพ-กาฐมัณฑุวันที่สอง ชิตวันวันที่สาม ลุมพินีวันที่สี่  โพคขราวันที่ห้า  กรานดุกเทรคกิ้งวันที่หก โพคขราวันที่เจ็ด กาฐมัณฑุ-นครก๊อตวันที่แปด กาฐมัณฑุ-กรุงเทพทริปนี้ เป็นการนั่งรถจิ้ปส่วนตัว เริ่มจากกาฐมัณฑุ ไปต่อที่ชิตวันนั่งช้างชมแรดที่อุทยานแห่งชาติชิตวัน ดูแรดนอเดียว จรเข้ในแม่น้ำ การแสดงของชนเผ่าถาลู จากนั้นก็นำลูกค้าต่อไปยังเมืองลุมพินี สถานที่ประสูตของพระพุทธเจ้า เที่ยวชมวัดต่างๆในลุมพินีสถาน และรุ่งเข้านั่งรถต่อไปยังเมืองโพคขรา พัก 1 คืนรุ่งเช้าออกเดินทางเทรคกิ้งไปยังหมู่บ้านกรานดุก เป็นหมู่บ้านทีได้เห็นหิมาลัย ชัดเจน จากนั้นเดินลงและกลับไปพักยังโพคขรา 1 คืน และนั่งรถกลับไปยังเมืองกาฐมันฑุ ุร่งเช้านั่งรถไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่นคราก๊อตแล้วต่อไปยังเมืองปักตะปูร์ ปาทัน วัดโบดา วันสุดท้ายก็เดินทางกลับ ทริปนี้ทุกท่านบอกไว้ว่าจะกลับไปเทรคกิ้ง ABC อีกดูภาพทริปต้นฉบับได้ที่https://shorturl.asia/L7qAd

รีวิว จากคุณนฤพลหมู่เกาะมัลดีฟส์ เป็นหมู่เกาะที่อยู่ในมหาสมุทรอินเดีย อยู่ทางตอนใต้ของประเทศศรีลังกาชื่อเสียงกิตติศัพท์ของหมู่เกาะแห่งนี้ เลื่องลือมายาวนาน จนทำให้นักเดินทางอย่างผมอยากจะสัมผัสสักครั้งหนึ่งและเมื่อต้นปี เลยดำริกับก๊วนเพื่อนที่รักกัน กับแพลนการเดินทางสู่เกาะมัลดีฟส์ทริปนี้มีเวลาแค่ 2 คืน 3 วัน ด้วยเหตุผลบางอย่าง แต่เราก็พยายามเก็บรายละเอียดให้ได้มากที่สุด เพื่อเก็บเป็นความทรงจำในบันทึกการเดินทางอีกบทหนึ่งคณะเราเดินทางจากสนามบินดอนเมือง มุ่งหน้าสู่เมืองมาเล เมืองหลวงหลักของเกาะมัลดีฟส์ จากนั้นก็นั่งเครื่องบินน้ำหรือเครื่องบินทะเล (Sea plane) มุ่งหน้าสู่ที่พักชื่อ Heritance Aarah เป็นรีสอร์ทแบบ Premium All inclusive ซึ่งหมายความว่า คุณสามารถกินดื่มได้แบบไม่มีข้อจำกัด และที่พักของพวกเราก็อยู่กลางทะเล ท่ามกลางน้ำที่ใสสะอาดพวกเราเดินทางไปถึงเกาะประมาณ 14.00 น. พอไปถึงมีเจ้าหน้าที่ที่คอยดูแลเราตลอดทริป ชื่อ kunal และ ilmera สองสามีภรรยา ที่น่ารักเป็นผู้รับผิดชอบกลุ่มเรา จากนั้นก็พาเราไปยังห้องอาหารเพื่อทานอาหารเที่ยงเมื่อทานอาหารเสร็จก็พาไปยังห้องพักที่สะอาดสะอ้านกว้างขวาง และสวยงาม สำหรับสถานที่แห่งนี้ ความงดงามของทุกสิ่งที่อยู่รอบตัว สมกับคำว่า Paradise ที่แท้ทรู มันคือเกาะสวรรค์ที่คุ้มค่ากับการเดินทางเริ่มแรกเรื่องราวของเกาะมัลดีฟส์ ที่ยังมีเรื่องราวอีกมากมาย อ่านรีวิวต้นฉบับได้ที่https://shorturl.asia/kWBjh

รีวิวทริปจากน้องกี้ ผ่านเฟสบุ้คเมื่อ มี.ค. อิชั้นกับเพื่อนสาวท่านนึงตกลงกันว่าจะไปมัลดีฟส์ จิ้มอยู่หลายชม.ว่าจะไปเดือนไหน สุดท้ายลงตัวที่เดือน ก.ค. ด้วยภาระกิจที่หาสาเหตุไม่เจอ จากนั้นก็จองตั๋วกันเลยสิคะเดี่ยวตั๋วมันจะแพงไป เรื่องโรงแรมก็จะหาบนเกาะ local ที่มีโรงแรมเยอะๆไม่แพงมาก แต่สุดท้ายด้วยความทั้งคู่ที่มองหน้ากันแล้วก็คงไม่ได้จองอยู่ดี ก็เลยต้องหาตัวช่วย ก็นึกถึงคนนี้เลยค่ะ พี่บอน Serene Tour เพราเมื่อ 7 ปีที่แล้วอิชั้นกับเพื่อนรัก(มั๊ย)ก็ไปมัลดีฟ โดย พี่บอน @Serene Tour เช่นกัน ครั้งนั้น เด็กบ้านๆอย่างอิชั้นก็กินหรูอยู่สบายบนเกาะ ครั้งนี้จะพลาดได้ยังงัย และก็ไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆด้วย แค่บอกไปว่า กิ๊มีตั๋วไปกลับแล้วนะ ช่วยดูโรงแรมให้หน่อย พี่บอนก็เสกมาให้เลยจ๊า ตั้งแต่ทำ IMUGA เข้าเมือง แน่นอนค่ะว่าไม่ธรรมดาตั้งแต่เหยียบเกาะของโรงแรม ไปถึงเกาะเราสองคนก็โดนแยกออกมาจากนั่งท่องเที่ยวคนอื่นๆที่กำลังเดินไปเช็คอิน อิชั้นก็งงสิคะ ที่ไหนได้เค้ามีรถมารับจากท่าเรือไปที่ front โรงแรม ระยะทางแค่100 ม.(ปกติไปไหนอิชั้นก็แบกหามกระเป๋าเองตามประสาคนโสด) ว้าวเลยค่ะ หลังจากเช็คอินเรียบร้อย ก็จะมี Butler คอยดูแลไปรับส่งที่ห้องพัก ซึ่งอยากไปหรือต้องการอะไรก็สามารถแจ้ง Butler ได้ตลอด 24 ชม. คนนี้จะเป็นคนดูแลเราตั้งแต่ไปถึงจนกลับ นางน่ารักมากดูแลพวกเราตลอด ทุกอย่างที่นี้ดีมาก ไม่ว่าจะเป็นท้องฟ้าที่สวย น้ำทะเลที่ใสแบบตะโกนนนน ก็ยังมีการบริการ อาหาร เครื่องดื่มแบบไม่อั้นไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่ม เบียร์ ไวน์ เหล้า รวมทั้งมีกิจกรรม Snorkelling trip,Sunset Dolphin, SPA และอีกเยอะแยะมากมายทุกอย่างรวมในแพคเกจที่พี่บอนจัดให้ ตอนอยู่ที่โน้นก็พี่บอนคอยไลน์มาถามตลอดและแนะนำดุจญาติมิตร ขอบคุณสำหรับทริปนี้ที่แฮปปี้มากๆพร้อมกับน้ำหนักตัวที่เพิ่มกลับมา 2 โล (ครั้งก่อนโน้นไปฮอกไกโดก็ไปกับทัวร์พี่บอนคือกินฉ่ำมากค่ะ) สำหรับใครที่สนใจทริปไหนติดต่อพี่บอนไปได้เลยค่ะ พี่บอนมีทุกประเทศค๊าอ่านรีวิวต้นฉบับที่ https://shorturl.asia/xXjqL

ลูกค้าทริปส่วนตัวประเทศจีน ธนาคารออมสิน สาขาเกาะสมุย และ สาขาบ่อผุด จำนวน 27 ท่าน ขอขอบคุณธนาคารออมสิน สาขาเกาะสมุย และบ่อผุด จ.สุราษฎร์ธานี มาณ ที่นี้ด้วยนะคะสำหรับทริปนี้ เราเดินทางด้วยกันทั้งสิ้น 4 วัน 3 คืน ระหว่างวันที่ 31 พค.-3 มิย.68เริ่มต้นเดินทางกันเลยวันก่อนการเดินทางเรานัดเจอกันก่อนจะเดินทาง ที่กรุงเทพมหานคร บริเวณโรงแรมรีเจ้นต์ สุวรรณภูมิ ซึ่งใช้เวลาเดินทางประมาณ 10-15 นาที ทัวร์เราบริการจองห้องพักและรถรับส่งให้กับเจ้าหน้าที่ธนาคาร เพื่ออำนวยความสะดวก โดยค่าที่พักคืนละ 700 บาท ค่าเหมารถตู้คันละ 500 บาท/เที่ยว 3 คันวันแรกออกจากโรงแรมที่พักไปยังสนามบินสุวรรณภูมิ หลังจากคุณลูกค้าทานข้าวเช้า เราก็มาเช็คอิน สายการบินไหหนาน ซึ่งเปิดให้เช็คอินล่วงหน้าเพียง 3 ชั่วโมง ใช้เวลาในการเช็คอินประมาณ 1 ชม. 20 นาที เราก็ได้เข้าไปในเกต เจ้าหน้าที่จะเช็คตั๋วขากลับด้วยนะทุกท่านต้องเตรียมเอกสารตั๋วมาให้พร้อม  หากกลับคนละสายการบิน  หลังจากเครื่องเทคออฟ ได้ไม่นาน ก็มีการเสริฟอาหาร และเครื่องดื่ม ใช้เวลาบินประมาณ 3 ชม. ก็ถึงนครฉงชิ่ง หลังจากผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง เราก็เจอไกด์ น้ำผึ้ง ที่สามารถพูดไทยได้คล่อง วันนี้เราไปเดินหาง Raffles ซึ่งเป็นห้างที่ใหญ่ที่สุดในนครฉงชิ่ง ใช้ทุนก่อสร้างประมาณ ประมาณ 24 พันล้านหยวน ลองเอา 5 คุณเข้าไปดูนะ เป็นเงินไทย ในห้างจะประกอบด้วย สำนักงาน ที่พักอาศัย โรงแรม เซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ ร้านค้าปลีก และสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ ร้านที่คนไทย นิยมคือ CHA GEE, POP MART สินค้าแบรนด์เนมต่างๆ วันแรกจบวันเพราะฝนตกและเหนื่อยล้าจึงเข้าที่พักวันที่สองเริ่มต้นด้วยอาหารเช้าที่โรงแรมที่พัก จากนั้นเดินทางไปยังเมืองต๋าจู่(Dazu) ซึ่งใช้เวลาเดินทางจากฉงชิ่งประมาณ 2 ชม. ที่เมืองนี้มีสถานที่สำคัญคือผาหินแกะสลัก ต๋าจู่ อยู่ริมแม่น้ำ และได้รับประกาศเป็นมรดกโลก เราใช้เวลาบริเวณผาหินแกะสลักประมาณ 2 ชั่วโมง บอกได้เลยว่าเป็นสองชั่วโมงที่หน้าประทับใจกับผลงานแกะสลักที่งดงาม และสมบูรณ์ สีเดิมแม้จะซีดจางลงไปแต่ก็ยังเห็นร่องรอย ความสวยงามในอดีต ได้เห็นถึงความตั้งใจและศรัทธาของชาวพุทธ ที่ได้ยินเพียงเรื่องเล่าในตำรา อยากเห็นพระพุทธเจ้าบ้างเลยมาแกะสลักไว้ให้ผู้คนได้กราบไหว้บูชา อายุอานามของผาหินนี้ ก็ไม่มากไม่มาย 1600 กว่าปีเอง เพราะเริ่มสร้างในปี ค.ศ900-1300 ใช้เวลาในการสร้างถึง 400 ปี เราทานข้าวเที่ยงกันที่เมืองนี้ และเดินทางกลับเมืองฉงชิ่ง ระหว่างทางแวะจุด Service ห้องน้ำห้องท่า ที่นี่สะอาดสะอาด มีของที่ระลึกและอาหารให้พอได้ช้อปปิ้งกัน  บ่ายสามกว่าเราก็เดินทางกลับฉงชิ่ง ไปเที่ยวชมเมืองโบราณสือชี่โข่ว เมืองงนี้ในอดีตเป้นเมืองทีทำกระเบื้องหลังคา จุดแรกที่เราเดินไปก็เลยเห็นพื้นประดับด้วยกระเบื้องหลังคา ภายในเมืองโบราณยังอนุรักษ์อาคารต่างๆ รวมทั้งหลังคาไว้เป็นอย่างดี เพียงแต่เปลี่ยนแปลงเป็นร้านค้าจำหน่ายอาหารเป็นส่วนใหญ่ และมีของขายที่ระลึก มีร้านพัดจีน ทีเขียนด้วยพู่กันอยู่นะ ที่เมืองนี้   เดินเสร็จแล้วเราก็ไปชมรถไฟทะลุตึก ซึ่งเป็นจุดเช็คอินที่วัยรุ่นบอกว่าต้องมา ไกด์บอกว่า บริษัทเจ้าของตึกสร้างก่อนแล้วรัฐบาลบอกว่าต้องมีรถไฟผ่านตรงนี้ คุยกันไปมา ก็เอาให้รถไฟทะลุตึกและเป็นสถานีอีกหนึ่งสถานี ถามว่าคนพักจะเสียงดังมั้ยเค้าบอกเสียงดัง และย้ายออกไปกันพอสมตวร มีด้านล้างตึกที่มีร้านค้าจำหน่ายสินค้าวันที่สามเราเริ่มต้นกันด้วย หอกิลด์หูกวง (Huguang Guild Hall) เป็นอาคารเก่าแก่และพิพิธภัณฑ์ หากเราเดินขึ้นสะพานจะได้ภาพกำแพงสีเหลืองสวยงาม เสียดายเราไม่มีเวลาเดินขึ้นไปบนสะพานเลยได้ภาพมาไม่ตรงปกกับรีวิว จากนั้นก็เดินทางไปยังพงหยาต้ง โรงเตี้ยมที่กลายเป็นโรงแรมที่พัก และร้านค้าจุดเช็คอินไฮไลท์ ต้องถ่ายภาพกลางคืนจะสวยมาก แต่ต้องล่องเรือนะ ถึงจะได้มุมทั้งหมดของอาคาร ถ้าอยู่ใกล้ๆจะไม่เห็นมุมที่เช็คอินรีวิวกัน กลางวันก็มีวิวอีกแบบ ไปซื้อของที่ระลึกกันในร้านค้า ได้หมีแพนด้ากันมา ไกด์ใจดี พาไป มหาศาลาประชาคม (Great Hall of People) ซึ่งจำลองจตุรัสเทียนอันเหมิน ในฉบับย่อ เป็นโรงละครและประชุมสภาผู้แทนราษฏรของนคร กินข้าวเที่ยงริมแม่น้ำแยงซีเกียง เราก็ไปต่อที่ Art Gallery ที่ลักษณะหลังคาคลัายตะเกียบ สีแดงดำ ถ่ายรูปหน้าตึกฝนพรำ แล้วเดินต่อไปที่ถนนคนเดิน หาชากี ช้อบปปิ้งป้อบมาร์ท ถ่ายรูปกับร้าน Apple store จุดเช็คอินใหม่ และหอนาฬิกา เมื่อได้เวลาก็เดินต่อไปยังวัดพระอรหันต์ (วัดโลฮัน) เป็นวัดที่ขอพรอะไรก็จะได้สมหวัง อายุวัดประมาณ 1000 ปี เดิมมีพระอรหันต์ 500 องค์ แต่ถูกทำลายสมัยจีนแดง ปัจจุบันหลงเหลือพระอรหันต์ 16 องค์ พระศรีศากยมุนี 1 องค์  และเจ้าแม่กวนอิม และเทพเจ้าต่างๆ ของจีน เมื่อไหว้พระเสร็จเราก็เดินต่อไปยังร้านอาหารเย็น มื้อนี้เป็นสุกี้หมาล่า ถูกใจชาวคณะยิ่งนัก มีเนื้อสารพัดให้เลือกและเครื่องดื่มเบียร์ไม่อั้นจุใจ ทานอาหารเสร็จแล้วก็ไปล่องเรือแม่น้ำแยงซีเกียง ชมบรรยากาศตึกรามบ้านช่องที่ประดับด้วยไฟหลากสี ยิ่งใหญ่อลังการ ไม่เป็นรองแม้กระทั่งฮ่องกง รัฐบาลจีนเค้าลงทุนกันจริงๆ หมดวันก็เข้าที่พัก วันทีสี่ด้วยไฟลท์ที่เช้ามาก 08.30 เราจึงต้องจำใจลานครฉงชิ่งไปแต่เช้าตรู่ และกลับถึงประเทศไทยประมาณ 10.45 ด้วยความประทับใจ